“นาฬิกา” เครื่องจักรเล็กๆ ที่ทุกคนคุ้นเคยและเห็นกันอยู่ทุกวันนั้น ทราบหรือไม่ว่า มีบทบาทและผลกระทบทั้งด้านดีและร้ายต่อชีวิตของเราด้วย วันนี้อาจารย์จึงได้นำเคล็ดลับดีๆ ในการเลือกใช้และจัดวางนาฬิกาให้ถูกต้องมาฝากคุณผู้อ่านทุกท่าน เพื่อให้เกิดส่งผลดีกับสมาชิกผู้อยู่อาศัยทุกคน ทั้งในบ้านเรือนที่พักอาศัย ร้านค้า หรือสำนักงาน
กาลเวลาที่เปลี่ยนผ่านนับตั้งแต่สมัยโบราณมาถึงปัจจุบัน นาฬิกามีพัฒนาการด้านรูปทรง สีสัน วัสดุที่ใช้ ตลอดจนลักษณะต่างๆ เรื่อยมา มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบตั้งแต่นาฬิกาแดด นาฬิกาแบบไขลาน แบบลูกตุ้มมีเสียงกังวาน มาถึงแบบใส่ถ่าน รูปแบบเข็ม และนาฬิกาแบบตัวเลข ซึ่งขนาดและจำนวนของนาฬิกามีผลต่อสถานที่นั้นๆ มิใช่น้อย เนื่องจากนาฬิกาเป็นตัวกระตุ้นพลังที่เคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา หากวางนาฬิกาอยู่ถูกที่ ถูกเวลา ก็ให้คุณประโยชน์มากมาย แต่ถ้าอยู่ผิดที่ ผิดเวลา ก็อาจส่งผลเสียต่อสมาชิกในสถานที่นั้นได้
เริ่มต้นจากการพิจารณานาฬิกาภายในบ้านก่อน โดยนาฬิกาควรมีขนาดที่เหมาะสม ไม่ใหญ่จนเกินไป เพราะจะกดดันต่อบุคคลในบ้านและกวนกระแสพลังในบ้าน และควรวางหรือแขวนนาฬิกาขนานกับตัวบ้าน หลีกเลี่ยงการวางหรือแขวนบริเวณจุดกึ่งกลางบ้าน ส่วนในห้องต่างๆ ภายในบ้านนั้น เมื่อเปิดประตูหันหน้าเข้าไปในห้อง นาฬิกาควรแขวนไว้ทางด้านขวามือ และไม่ควรมีเกิน 1 เรือนในแต่ละห้อง เพราะจะทำให้เกิดแรงกดดัน มีเหตุให้ต้องเหน็ดเหนื่อยดิ้นรนอยู่ตลอดเวลา สำหรับในห้องนอน ควรใช้นาฬิกาแบบตั้งโต๊ะวางไว้ด้านข้างเตียง ไม่ควรวางบนหัวเตียง และควรเลือกใช้นาฬิกาที่ไม่ส่งเสียงดังมากนัก เพื่อให้สามารถพักผ่อนอนหลับได้เต็มที่
ต่อมาเป็นการพิจารณาการจัดวางนาฬิกาในสำนักงาน รูปแบบของนาฬิกาที่ใช้ไม่ควรเป็นแบบที่มีการเตือนด้วยเสียง เพราะจะมีผลต่อสมาธิในการทำงาน ตำแหน่งการแขวนนาฬิกาที่เหมาะสมนั้น เมื่อเปิดประตูหันหน้าเข้าไปในห้องทำงาน นาฬิกาควรแขวนอยู่ในแนวขนานของห้องด้านขวามือ หรืออาจแขวนไว้บริเวณหลังห้อง เพื่อไม่ให้พนักงานมองเห็นง่าย จะได้มีสมาธิกับการทำงาน ไม่วอกแวก สำหรับในห้องประชุมควรแขวนนาฬิกาในตำแหน่งที่ประธานการประชุมมองเห็นได้ชัดเจน เพื่อให้สามารถควบคุมเวลาประชุมได้
(Credit: https://www.hafelethailand.com)
|